“ดูเถิด คนหยิ่งจองหอง จิตใจภายในเขาไม่ซื่อตรง แต่ว่าคนชอบธรรมจะดำรงชีวิตอยู่ด้วยความซื่อสัตย์” – ฮาบากุก 2:4 (THSV11)
ความเชื่อ เป็นคำที่เรามักใช้บ่อยๆ แต่บางครั้งเราก็ทำให้มันซับซ้อนเกินไป จริงๆ แล้ว ความเชื่อหมายถึง “ความไว้วางใจหรือความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่” และยังสื่อถึงความภักดีและความมุ่งมั่น อีกด้วย ความเชื่อไม่ได้เป็นแนวคิดที่ซับซ้อนจนเราต้องกังวล แต่ความเชื่อที่แท้จริงในพระเจ้าคือการยอมรับว่าการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูนั้น
เป็นความจริงอย่างสมบูรณ์ ที่เราจะยอมรับว่า “ข้าพระองค์ไม่เพียงแต่เข้าใจและยอมรับเท่านั้น แต่ข้าพระองค์จะดำเนินชีวิตตามความเชื่อนี้ด้วย”
พระคัมภีร์กล่าวว่า “ผู้ชอบธรรมจะดำรงชีวิตโดยความเชื่อและความซื่อสัตย์” ซึ่งหมายถึงผู้ที่ได้รับความชอบธรรมโดยทางการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูบนไม้กางเขน
โดยความเชื่อ เราได้รับความชอบธรรมและพระเจ้าทรงปฏิบัติต่อเราเหมือนเป็นบุตรที่รักของพระองค์
วันนี้ ขอให้คุณกลับไปสู่พื้นฐานของความเชื่อ รู้ไว้ว่าทันทีที่คุณวางใจในพระองค์ คุณก็ได้รับความชอบธรรมแล้ว จงดำเนินชีวิตโดยการวางใจในพระเจ้า ผู้ทรงเปิดแขนของพระองค์ด้วยความรักพร้อมที่จะต้อนรับและรักคุณในแบบที่คุณเป็น
เริ่มต้นอธิษฐาน
“ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งที่ข้าพระองค์สามารถวางใจในพระองค์ และได้เป็นผู้ชอบธรรมที่จะไม่โอนอ่อนให้กับความบาป วันนี้ ข้าจะดำเนินชีวิตโดยความเชื่อในพระองค์”